หลังจากการตายของ Sultana Nanamo แห่ง Ul'dah รวมถึง การล่มสลายของกลุ่ม Scions of the Seventh Dawn ทำให้เหล่าสมาชิกที่เหลืออย่างTataru, Alphinaud และนักรบแห่งแสง - ต้องไร้ที่พึ่งพิง ทางรอดเดียวของเรา คือมุ่งหน้าเดินทางสู่ Ishgard ภายใต้การคุ้มครองของ House Fortemps หนึ่งในตระกูลขุนนาง พร้อมทั้งได้รับความช่วยเหลือจาก Haurchefant เพื่อนเก่าแก่ ซึ่งเป็นบุตรนอกสมรสของ Lord Edmont de Fortemps
Ishgard |
ภารกิจเพื่อ House Fortemps
เพื่อตอบแทน House Fortemps นักรบแห่งแสงจึงช่วยเหลือ Artoirel และ Emmanellian บุตรชายอีกสองคนของ Edmont ในการทำภารกิจต่างๆ
Edmont |
ในส่วนของตัว Emmanellian นั้นเกียจคร้าน หวังใช้ชื่อเสียงของนักรบแห่งแสง สร้างผลงาน และเอาชนะ Artoirel พี่ชายของเขา โดยให้ความช่วยเหลือ Rose Knights อัศวินในพื้นที่ Sea of Clouds แต่ Rose Knights และทหาร ใน Camp Cloudtop กลับมองการกระทำของเค้าออก และขอให้นักรบแห่งแสงดูแล Emmanellian ไม่ให้สร้างปัญหาแทน(5555) แต่แล้ว Emmanellian กลับถูกลักพาตัวไป โดยเหล่า Vanu Vanu ซึ่งเป็นหนึ่งในชนเผ่า Beastmen ทำให้นักรบแห่งแสงจึงต้องเข้าช่วยเหลือ และพาหนีออกจาก Bismarck Primal วาฬแห่งท้องฟ้า
Bismarck |
ส่วนตัว Artoirel นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เขามุ่งมั่นและตั้งใจในหน้าที่ พร้อมทั้งภักดีต่อ Ishgard ค่อนข้างระมัดระวัง นิสัยระแวงคนนอก และไม่ไว้ใจผู้ลี้ภัย ไม่พ้นแม้กระทั่งนักรบแห่งแสงเอง Artoirel ได้รับมอบหมายให้สร้าง Falcon's Nest ป้อมปราการใน Coerthas Western Highlands ที่ถูกทำลายลงไป หลังจากเหตุการณ์ Calamity จบลง(เหตุการณ์จาก 1.0) และจากเหตุการณ์นั้นก็ได้เปลี่ยน Highlands เป็นดินแดนน้ำแข็ง ระหว่างการก่อสร้างนักรบแห่งแสง และ Artoirel พบกับ Heretics (ผู้นับถือ Primal) รวมถึง Lady Iceheart อดีต Saint Shiva Iceheart ได้สนทนากับนักรบแห่งแสง และ Midgardsormr มังกรที่ร่วมเดินทาง ซึ่งทาง Iceheart เผยว่า แท้จริงแล้วเธอไม่ได้ต้องที่จะการทำลาย Ishgard ตัวเธอเพียงแค่ต้องการจะยุติวงจรแห่งความเกลียดชัง และสร้างสันติภาพ ระหว่าง Ishgard กับ Dravanian พอพูดคุยกับจบ ตัวเธอก็ได้หลบหนีไป ส่วน Heretics คนอื่นๆ ถูกสังหาร
Artoirel |
การกลับสู่ Ishgard และจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง
เมื่อนักรบแห่งแสงเดินทางกลับสู่ Ishgard สถานการณ์ที่นี่กลับเลวร้ายลง Alphinaud และ Tataru ถูกจับกุมในข้อหา Heresy(พวกนอกรีต) โดย Heaven's Ward กลุ่มอัศวินผู้พิทักษ์ นำโดย Archbishop Thordan VII ผู้นำศาสนจักร ซึ่งมีอำนาจสูงสุดใน Ishgard แม้แต่ Aymeric อัศวินผู้บัญชาการ ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ นักรบแห่งแสงจึงต้องเข้าร่วมต่อสู้ใน Trial by Combat เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของ Alphinaud และ Tataru
Archbishop Thordan VII |
เหตุการณ์นี้เผยให้เห็นถึงความขัดแย้ง ระหว่างกลุ่ม Scions กับศาสนจักรของ Ishgard ที่ยึดมั่นในสงครามศักดิ์สิทธิ์ Dragonsong War กับพวก Dravanian มานานนับพันปี พวก Scions ที่ต้องการสร้างสันติภาพ จึงถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อ Ishgard (เค้ารบกันจนเป็นปกติ จะมาถามหาสันติเลยโดนมองว่านอกรีต เพราะไปขัดกับหลักความเชื่อ)
Dragonsong War |
หลังจากที่เราผ่านบททดสอบ และได้รับอิสรภาพ Alphinaud และ Tataru เข้ามาแจ้งข่าวดี พวกเขามีเบาะแสที่จะช่วยเหลือ Raubahn ที่ถูกคุมขังไว้ตั้งแต่เหตุการณ์การวางยา Nanamo และได้ถูกคุมขังรอการประหารใน Halatali นักรบแห่งแสงจึงต้องรีบเดินทางไปช่วยเหลือ
ตัดกลับมาที่ Waking Sands ฐานทัพเก่าของ Scions นักรบแห่งแสงเดินทางกลับมาพบกับ Urianger, Papalymo และ Dewlala Dewla (สมาชิก Syndicate แห่ง Ul'dah) Dewlala เผยความจริงว่า Sultana Nanamo ยังไม่ตาย ที่เห็นว่าล้มหมดสติลงไป เพราะถูกวางยานอนหลับโดย Lolorito ที่ติดสินบนนางกำนัลไว้ เพื่อขัดขวางแผนการลอบสังหารของ Teledji Adeledji แต่ก็ดีใจได้แปปเดียว เมื่อ Tataru ส่งข่าวจาก Ishgard ว่า Dravanian Horde กำลังเคลื่อนพล เพื่อเตรียมบุก Ishgard สงครามกำลังจะปะทุขึ้น
Dewlala |
แสวงหาสันติภาพกับมังกร
นักรบแห่งแสง และ Alphinaud จีงรีบตัดสินใจกลับไปยัง Ishgard โดยที่ Alphinaud เชื่อว่า Lady Iceheart คือ กุญแจสำคัญในการยุติสงครามครั้งนี้ พวกเขาจึงออกตามหา Iceheart พร้อมกับ Estinien Azureอ ซึ่งเค้าเป็น Dragoon แห่ง Ishgard ผู้ครอบครองดวงตามังกร Nidhogg ซึ่ง Estinien ต้องการร่วมเจรจากับ Dravanian Horde โดยที่ Alphinaud ยอมแต่ขอให้ Estinien สงบสติอารมณ์หน่อย โดยให้ Tataru อยู่ที่ Ishgard เพื่อตามหา Scions คนอื่นๆต่อไป
Estinien Azure Dragoon |
Iceheart บอกว่า Nidhogg หนึ่งในมังกร Great Wyrm ผู้นำแห่ง Dravanian Horde เกลียดชังพวกมนุษย์เป็นที่สุด ทำให้การเจรจาค่อนข้างจะเป็นไปไม่ได้ แต่ยังมีมังกร Great Wyrm ชื่อ Hraesvelgr อีกตน ซึ่งอาจจะพอเปิดรับฟังการเจรจากับเราได้ ทางด้าน Iceheart ก็ได้ร่วมมือกับนักรบแห่งแสง และในที่สุดคริสตัลแห่งน้ำแข็ง ในตัวนักรบแห่งแสง ก็กลับมาส่องสว่างอีกครั้ง ทำให้รู้ว่า เราเริ่มเอาชนะการปิดกั้น จาก Midgardsormr ได้บ้างแล้ว
การเดินทางสู่ Churning Mists
เพื่อไปยังถ้ำที่อยู่ของ Hraesvelgr พวกเราจำเป็นต้องเดินทางผ่าน Dravarian Forelands และ Sohm Al เพื่อเข้าสู่พื้นที่ Churning Mists (เปิดพื้นที่ใหม่เพียบ) Iceheart แนะนำตัวว่า จริงๆตัวเองชื่อ Ysayle หลังจากนั้น Ysayle และ Estinien ก็ได้เกิดการถกเถียงกันทางความคิดในเกี่ยวกับพวกมังกร แต่ทาง Alphinaud ยืนยันว่าในอีกไม่ช้า Echo ของนักรบแห่งแสง จะเปิดเผยความจริงเรื่องนี้ขึ้นมาให้เองในอนาคต
Gnath |
ระหว่างทาง พวกเขาพบกับ Gnath ชนเผ่า Beastmen ที่อัญเชิญ Ravana Primal เพื่อที่จะแก้แค้นชาว Ishgard และมังกร นักรบแห่งแสงจำเป็นต้องเข้าต้องมาหยุดยั้ง Ravana และพวก Gnath เพื่อป้องกันสงครามสามฝ่าย (สองฝ่ายทะเลาะกันอยู่ดีๆ พี่จะเรียกเทพ มาตบทั้งหมดเลยซะอย่างงั้น 555)
หลังจากปราบพวก Gnath และได้รับความไว้วางใจจากมังกรแล้ว นักรบแห่งแสง พร้อมกับพรรคพวก ได้เดินทางสู่ Churning Mists เพื่อเข้าพบกับเหล่า Moogles of Moghome เป็น Moogles กลุ่มแรกที่รับใช้ The Twelve ก่อนที่ Good King Moggle Mog จะได้นำพา Moogles บางส่วน ไปยัง Twelveswood ซึ่ง Moogles of Moghome รับใช้มังกรทำให้ นักรบแห่งแสงจำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองก่อน เพื่อพบกับ Hraesvelgr
Ravana |
ความจริงแห่ง Dragonsong War
ในที่สุดมังกร Hraesvelgr ได้ปรากฏตัวขึ้น และทำลายความหวังโดยบอกว่า Ysayle ไม่ใช่ Shiva กลับชาติมาเกิดแต่อย่างใด เธอเป็นเพียงเงาที่ Ysayle อัญเชิญขึ้นมา เหมือนที่ชาว Allagan อัญเชิญ Bahamut ซึ่ง Hraesvelgr เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ Dragonsong War เมื่อ 1,200 ปีก่อน "Saint Shiva เธอได้เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อสันติภาพ ระหว่างมังกรกับมนุษย์ เวลาผ่านไป 200 ปีต่อมา King Thordan I และอัศวินของเขา ได้กระทำการสังหารน้องสาวของ Hraesvelgr และ Nidhogg หลังจากนั้นการควักดวงตา และกินเลือดของเธอ เพื่อให้ได้พลัง เลือดมังกร ยังคงอยู่ในสายเลือดชาว Ishgard ทำให้ชาว Heretics กลายร่างเป็นมังกรได้ โดยที่ Nidhogg ใช้สิ่งนี้ สร้างกองทัพ เพื่อแก้แค้น " หลังจากได้ทราบข้อเท็จจริงจาก Hraesvelgr ทำให้ Ysayle สิ้นหวังมาก และ Estinien ได้ตัดสินใจ จะสังหาร Nidhogg ทันทีเพื่อป้องกันการสูญเสียจากสงครามความแค้นนี้ (มาเพื่อเจรจาพอเจอความจริงกับช๊อคกันหมด เพราะความเข้าใจคือ มังกรก่อสงคราม แต่ความจริงคือ มนุษย์ต่างหากที่ไปฆ่ามังกรก่อน)
Hraesvelgr |
Manacutter และการกลับมาของ Sultana
เพื่อบุก Aery รังที่อยู่อาศัยของ Nidhogg จำเป็นต้องฝ่าพายุ Aether เข้าไป ทำให้ Cid และลูกศิษย์ของเค้า Biggs และ Wedge ได้สร้างยาน Manacutter ที่ Skysteel Manufactory ในเมือง Ishgard แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีนัก ในเวลานั้นนักรบแห่งแสง จึงเดินทางไป Ul'dah เพื่อปลุก Sultana Nanamo ให้ฟื้นขึ้นมา Lolorito แจ้งข่าวร้าย Garlean Empire ภายใต้จักรพรรดิองค์ใหม่ กำลังสร้างเรือเหาะขนาดใหญ่ เพื่อเตรียมบุก Eorzea อีกครั้ง ส่วน Alphinaud เสียใจที่ Crystal Braves ที่เค้าก่อตั้งขึ้น เป็นผลงานที่ล้มเหลว ตัวเค้าจึงกลับมาเป็น Scions อีกครั้ง และได้เดินทางมาที่เมือง Ul'dah เพื่อเตรียมรับมือจักรวรรดิ Garlean ส่วนทางนักรบแห่งแสง หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่นี่ ก็รีบเดินทางกลับไปหา Cid
Manacutter |
การต่อสู้กับ Nidhogg และความจริงแห่งอดีต
นักรบแห่งแสง และ Estinien เข้าต่อสู้กับมังกร Nidhogg โดยที่ Estinien ได้ใช้ดวงตาของ Nidhogg เพื่อเสริมพลังให้กับตนเอง จนเขาเกือบถูก Nidhogg ควบคุมจิตใจได้ แต่ทาง Estinien ต้านทานไดก่อน และในที่สุด Nidhogg ก็ได้ถูกสังหารลง เลือด Nidhogg ได้อาบย้อมชุดเกราะของ Estinien จนเปลี่ยนเป็นสีแดง(แรงสามเท่า) หลังจากนั้น Estinien กลับรู้สึกว่างเปล่า เมื่อภารกิจ สิ้นสุดลง (บรรพบุรุษไปฆ่าน้องเค้า แล้วพี่ชายเค้าแค้นก็เลยพยายามจะแก้แค้นให้น้อง เลยไปฆ่าพี่ชายเค้าต่อ เสร็จแล้วก็ว่างเปล่า...)
Estinien |
และในที่สุด Echo ของนักรบแห่งแสงก็ได้เผยความจริง เกี่ยวกับดวงตาของ Nidhogg หลังจาก Nidhogg สังหาร King Thordan ลงเพื่อแก้แค้นให้น้องสาว Haldrath โอรสของ Thordan ก็ออกตามล่า Nidhogg และสังหารทิ้ง ซึ่งตนเดียวกับที่นักรบแห่งแสงเพิ่งฆ่าไป โดยที่อัศวิน 4 คน ขอให้ Haldrath ขึ้นครองบัลลังก์ต่อผู้พ่อที่ตายไป แต่ทาง Haldrath ปฏิเสธ เพราะ เคยกินดวงตา Nidhogg จึงถูกสาปและอาจถูกครอบงำได้ Haldrath จึงเลือกเป็นนักล่ามังกรต่อไปจนกว่าจะตาย เพื่อไถ่บาป ที่ทำลายสันติภาพ ที่ Shiva อุตสาเสียสละชีวิตเพื่อสร้างมา ทำให้อัศวินทั้ง 4 คน จึงตัดสินใจให้นับจากนี้อาณาจักร Ishgard จะไม่มีกษัตริย์ และให้ 4 ตระกูลเป็นผู้ปกครอง Ishgard สืบไป
Haldrath |
หลังตากนั้น Haldrath ได้ทำการควักดวงตา Nidhogg ทั้งสองข้าง โดยที่ข้างหนึ่งตกทอด มาถึง Estinien ทำให้มังกร Hraesvelgr พี่ชายของ Nidhogg แบ่งตัวตาของตนเอง ให้ Nidhogg เพื่อไถ่บาป ที่มองข้ามภัยคุกคามจากมนุษย์ นั่นคือปฐมเหตุการณ์ของ Dragonsong War และสงครามก็ยังคงต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
ความจริงที่ถูกปิดบัง
นักรบแห่งแสง และ พรรคพวกได้เดินทางกลับสู่เมือง Ishgard ที่ถูกชาว Heretics ล้อม ส่วน Ysayle และ Haurchefant พยายามเข้าเจรจายุติความขัดแย้ง ทางด้าน นักรบแห่งแสง และ Alphinaud รีบเข้าไปพบกับ House Fortemps เพื่อเปิดเผยความจริงจาก Echo เรื่อง Dragonsong wars ที่เพิ่งได้รับรู้มา ทำให้บันทึกของศาสนจักร ที่กล่าวหาว่ามังกร เป็นต้นเหตุของสงคราม เป็นเรื่องโกหก รวมถึง 4 ตระกูล ที่อ้างว่าสืบเชื้อสาย มาจาก King Thordan ก็เป็นเรื่องโกหกเช่นกัน ชาว Ishgard ทุกคน อาจมีสายเลือด Thordan และพิสูจน์ได้ ด้วยเลือดมังกรนั่นเอง (หักมุม ในหักมุมอีกที)
Vault |
การตายของ Nidhogg อาจจะยุติสงครามได้ แต่ความจริงอาจทำให้ Ishgard เกิดความวุ่นวายขึ้นอีกในอนาคต จึงทำให้ Aymeric ตัดสินใจนำเรื่องนี้ ไปบอก Archbishop เลยทำให้เค้าถูกกล่าวหาว่า เป็น Heresy(นอกรีต) และกบฏ ซึ่งส่งผลทำให้ Aymeric ถูกคุมขัง ใน Vault (พูดอะไร ที่ผิดไปจากจารีต หรือสิ่งที่เค้าเชื่อต่อๆมาก็ คุกสถานเดียว เอ๊ะ อันนี้ในเกมนะ)
การช่วยเหลือ Aymeric และการเสียสละของ Haurchefant
Lucia มือขวาของ Aymeric วางแผนช่วยเหลือ Haurchefant โดยได้นักรบแห่งแสง เข้าร่วมมือด้วย แต่ Vault นั้นการป้องกันแข็งแกร่งเกินไป พวกเขาจึงขอความช่วยเหลือ จาก Brume Revolutionaries กลุ่มกบฏ ใน Ishgard
นักรบแห่งแสง, Tataru และ Alphinaud ลงไปใน The Brume และพบกับ "The Mongrel" ผู้นำกลุ่มกบฏที่ถูกขับไล่ พวกเขาเข้าพบ Hilda The Mongrel และช่วยเหลือเธอจาก Temple Knights โดยที่ Hilda ตกลงช่วยนักรบแห่งแสง รวมมือกันช่วยเหลือ Aymeric ใน The Vault
Hilda The Mongrel |
การบุก The Vault สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี แต่ Archbishop ได้กระทำการส่ง Heaven's Ward จำนวน 2 คน ออกตามล่า นักรบแห่งแสง พวกเขาสามารถแปลงร่างเป็น Primal ได้เหมือน Ysayle อีกด้วย และทำให้ Haurchefant ต้องสละชีวิตเพื่อปกป้อง Aymeric และ นักรบแห่งแสง จากการโจมตีของ Archbishop ซึ่งก่อนตาย Haurchefant ก็ได้สั่งเสียบอกใบ้ถึง Azys La อีกด้วย
Haurchefant สั่งเสีย |
Azys La ดินแดนต้องห้าม
แม้จะไม่รู้จัก Azys La เลย แต่ Cid คาดการณ์ว่า Thordan VII อาจเกี่ยวข้องกับพวก Ascians และความลับของ Allagan Empire โดยที่ Cid เตรียมยาน Enterprise สำหรับการไล่ล่าเรือเหาะของ Archbishop เอาไว้แล้ว แต่กลับพบว่า Garlean Empire กำลังโจมตีเผ่า Vanu Vanu อยู่พอดี เพื่อที่จะตามหา Thordan VII เผ่า Vanu Vanu บอกว่า Azys La นั้นคือ "ต้นกำเนิดแห่งบาป" และ "ดินแดนแห่งความลับต้องห้าม" พวกเขามีกุญแจ Azys La แต่เก็บไว้ในศาลเจ้าลอยฟ้า ซึ่งศาลเจ้านั้นได้ถูก Bismarck the White ทำลายลงไป เหตุเพราะ Bismarck เกิดคลุ้มคลั่ง เพราะถูกพวกจักรวรรดิ Garlean โจมตี นักรบแห่งแสงจำเป็นต้องปราบ Bismarck เพื่อชิงกุญแจ
Azys La |
หลังจากปราบ Bismarck ลงได้แล้ว ทันใดนั้น Archbishop ก็ปรากฏตัว และแย่งชิงกุญแจไป(เอ้า เราก็ตบกับมันแทบตาย) ในขณะที่นักรบแห่งแสงกำลังเสียสมาธิ เพราะ Hydaelyn ทำการติดต่อมา ทำให้ Cid ต้องไล่ล่า Archbishop ด้วยยาน Enterprise แต่ก็มาติดที่ Aetherial barrier รอบ Azys La แข็งแกร่งเกินไป Lucia สารภาพว่าเธอไม่ใช่ชาว Ishgard แต่เป็น Garlean น้องสาวของ Livia sas Junius หนึ่งในผู้บัญชาการ Garlean ที่ นักรบแห่งแสงเคยปราบไป
Lucia |
การตามหา Scions
หลังจากนั้น Tataru ได้ติดต่อเข้ามาแจ้งข่าวดีว่า Immortal Flames พบไม้เท้าของ Y'shtola ในแม่น้ำ (เย้ นึกว่าจะเสียเจ้ไปซะแล้ว) นักรบแห่งแสง จึงขอความช่วยเหลือจาก Padjal ใน Gridania แล้วถึงพบว่า Y'shtola ใช้ Teleport โดยไม่ระบุตำแหน่ง ทำให้ติดอยู่ใน Lifestream การช่วยเหลือ Y'shtola จากสถานะการณ์นี้ค่อนข้างอันตราย ต้องใช้คนสนิทชิดใกล้ที่สุด ทำให้นักรบแห่งแสงจึงต้องออกตามหา น้องสาวของ Y'shtola
Matoya |
Y'shtola กลับมาได้ แต่ตาบอดสนิท เธอสร้างอาวุธ เจาะ Azys La ไม่ได้ แต่เธอรู้ว่า Matoya อาจารย์ของเธอ อาจจะพอมีทางออกในเรื่องนี้
Y'shtola |
Aetheric Converger
นักรบแห่งแสง, Alphinaud และ Y'shtola เดินทางไป Dravanian Hinterlands ที่ตั้งของอดีตเมือง Sharlayan เมืองโบราณที่ถูกทำลาย ในปัจจุบันถูก Goblins ยึดครองอยู่ โดยเฉพาะกลุ่ม Illuminati กลุ่ม Goblins ที่พยายามอัญเชิญ Alexander Primal ขึ้นมา และยังมีกลุ่ม Goblins ที่เป็นมิตร ขอให้นักรบแห่งแสง ช่วยสร้างเมืองใหม่ Idyllshire
Dravanian Hinterlands |
พวกเขาเดินทางไป Matoya's Cave อาจารย์ Matoya รู้จัก Aetheric Converger อุปกรณ์ที่อาจช่วยในสถานะการณ์นี้ได้ ซึ่งเธอเคยออกแบบไว้ แต่การออกแบบนั้น ทำให้เธอผิดใจกับเพื่อนร่วมงาน งานวิจัยเลยถูกเก็บไว้ในหนังสือที่ Great Gubal Library พอได้หนังสือออกมา Matoya ได้ทำการแปลหนังสือ ส่วน Cid ศึกษางานวิจัย และออกแบบ Aetheric Ram เพื่อติดตั้งบนยาน Enterprise แต่ Aetheric Ram ต้องการพลังงานมหาศาล ทางด้าน Alphinaud จึงเสนอให้ใช้ ดวงตาของ Nidhogg จึงทำให้ Aymeric ต้องเข้าไปเจรจากับ Estinien เพื่อขอดวงตามาให้พลังงาน ส่วน Cid เตรียมยาน Enterprise ให้พร้อม
Enterprise Excelsior |
นักรบแห่งแสงรวมทีมพร้อมลุย : Y'shtola, Estinien, Biggs, Wedge, Cid และ Ysayle Y'shtola และ Estinien ได้โต้เถียงกันเรื่องดวงตา Nidhogg โดยที่ Estinien ยืนยันว่า จะทำลายดวงตา ก่อนที่มันจะกัดกินเขา ส่วนทาง Cid ติดตั้ง Aetheric Ram เสร็จเรียบร้อย และตั้งชื่อเรือเหาะ ว่า Enterprise Excelsior
Enterprise Excelsior และการเสียสละของ Ysayle
ขณะที่ Enterprise Excelsior กำลังจะเจาะ Aetherial barrier ที่อยู่ล้อมรอบ Azys La เรือเหาะของจักรวรรดิ Garlean ขนาดยักษ์ที่ Lolorito เคยเตือนไว้ ก็ได้โจมตีใส่ยาน Enterprise จนเสียหายหนัก พลัง Nidhogg ในดวงตา เริ่มทำการควบคุม Estinien จนทำให้ Ysayle ตัดสินใจเสียสละ แปลงร่างเป็น Shiva เข้าต่อสู้กับเรือ Garlean จนในที่สุด ส่งผลให้ Ysayle ถูกสังหาร แต่ Enterprise Excelsior ก็เจาะ Aetherial barrier ได้สำเร็จ
Ysayle ยอมเสียสละชีวิต |
Azys La และ Warring Triad
นักรบแห่งแสง และพรรคพวก เดินทางเข้าสู่ Azys La ได้พบกับ Warring Triad อดีต Primals 3 ตน ที่ถูกเปลี่ยนเป็นหินเพราะพลัง Aether ถูกดูดไปใช้กับ Azys La และพวกเขาก็ได้พบกับ Regula van Hydrus ผู้บัญชาการ Garlean ซึ่ง Hydrus ชื่นชมนักรบแห่งแสง แต่ทาง Estinien โกรธแค้นที่ Hydrus ดูถูกพวกเขา Estinien รับมือพวก Garlean เพื่อให้นักรบแห่งแสง ไปต่อ
Regula van Hydrus |
Tiamat และความจริงแห่งมังกร
เส้นทางสู่ Flagship ถูกตัดขาด ทาง Midgardsormr แนะนำให้นักรบแห่งแสงไปหา Tiamat ซึ่งเป็นลูกของเขา บนเกาะใกล้ๆ เพื่อเรียนรู้ ความทุกข์ของมังกร 5,000 ปี Tiamat เล่าว่า มังกรเคยอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสงบสุขมาก่อน ก่อนที่พวกอารยธรรม Allagan จะกวาดล้างมังกร และทำลาย Bahamut โดยถูก Ascians หลอกล่อ โดยที่ Tiamat ให้อัญเชิญ Bahamut แต่ Bahamut ที่ถูกอัญเชิญ เป็นเพียงร่างปลอม ซึ่งทาง Ascians ได้มอบ Bahamut ให้กับ Allagan เพื่อใช้เป็น "แบตเตอรี่" ทางด้าน Tiamat เตือนว่า "เทพเจ้า" ที่มนุษย์นับถือ เป็นเพียงสิ่งที่ถูกอัญเชิญ จากจิตใจ และความปรารถนา ไม่ใช่เทพเจ้าที่แท้จริง การอัญเชิญ Primals ส่งผลเสียต่อ Hydaelyn ด้วย
Midgardsormr |
คริสตัล 4 ธาตุ ในตัวนักรบแห่งแสง ส่องสว่าง เชื่อมต่อกับ Hydaelyn อีกครั้ง Hydaelyn เตือนถึง Servants of Darkness ที่กำลังจะมา และขอให้นักรบแห่งแสง ใช้พลัง Echo ปกป้องโลก ทำให้ Midgardsormr ประทับใจ และนำพานักรบแห่งแสง ไปยัง Flagship ด้วยตนเอง
Ascian Prime และ God-King Thordan
นักรบแห่งแสงเผชิญหน้ากับ Lahabrea และ Igeyorhm Ascians 2 ตน ที่ต้องการชุบชีวิต Zodiark ซึ่ง Ascians เผย พลังที่แท้จริงของ Echo ที่สามารถทะลุมิติ และรวมร่างเป็น Ascian Prime แต่นักรบแห่งแสง ใช้พลังแห่งแสง และดวงตา Nidhogg เข้าขัดขว้างการรวมร่างเป็น Ascian Prime โดยที่ Ascians ได้สาปแช่งทาง Hydaelyn ก่อนที่ Thordan VII จะปรากฏตัวขึ้น
Knights of the Round |
Thordan VII ต้องการเป็น God-King ปกครองโลก(ปก ครอง โลก) และนำสันติสุขมาให้ โดยใช้ดวงตาอีกข้างของ Nidhogg ที่ฝังอยู่กับ Haldrath ซึ่ง Thordan VII ใช้ดวงตา Nidhogg และศรัทธาของชาว Ishgard แปลงร่างเป็น God-King Thordan และอัศวิน Knights of the Round โดยที่ Thordan ได้สังหาร Lahabrea เพื่อดูดกลืน Aether และเข้าต่อสู้กับนักรบแห่งแสง แต่แล้วในที่สุด Thordan ก็พ่ายแพ้
God-King Thordan |
Estinien มาถึง และเก็บดวงตา Nidhogg ทั้งสองข้างเพื่อนำไปซ่อน แต่ Nidhogg ควบคุม Estinien โดยดวงตา Nidhogg ดูดกลืนความเกลียดชังของ Estinien ทำให้เค้ากลายเป็นร่างทรง Nidhogg และบินหนีไป
สันติภาพแห่ง Ishgard
Thordan VII ได้ตายลง และนักรบแห่งแสง กลับสู่ Ishgard พร้อม Midgardsormr ที่ได้ถามกับ Aymeric ว่า "ลูกหลาน Thordan เจ้าปรารถนาสันติภาพหรือไม่ ?" ชาว Ishgard ได้ตอบรับสันติภาพ(ในที่สุด ไม่มีใครมาจับเข้าคุกละ ฮา) และ Ishgard ก็ได้ตกลงเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Eorzean Alliance หลังจากนั้น นักรบแห่งแสง จัดงานศพ ให้ Haurchefant ที่ Coerthas อย่างสมเกียรติ
Elidibus |
ตัดกลับไปบนดวงจันทร์ Elidibus ครุ่นคิดถึงความล้มเหลวของ Lahabrea และพลังของนักรบแห่งแสง ที่ใกล้เคียงเทพเจ้าเข้าไปทุกที ทำให้ Elidibus หันไปหาบุคคลในเงามืด และกล่าวว่า "บางที ถึงเวลาแล้ว ที่นักรบแห่งความมืด จะปรากฏตัว"
บทส่งท้าย
Heavensward จบลง ด้วยการสิ้นสุดของ Dragonsong War และการเริ่มต้นใหม่ของ Ishgard แต่ Ascians ยังคงเป็นภัยคุกคาม นักรบแห่งแสงต้องเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งใหม่ กับ Servants of Darkness และนักรบแห่งความมืด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น