The Crystal Tower: ปริศนาแห่งหอคอยคริสตัล | เนื้อเรื่อง Final Fantasy XIV

ตามบันทึกโบราณ  ในยุครุ่งเรืองของอารยะธรรมจักรวรรดิ Allagan  พวกเขาได้สร้างหอคอยคริสตัล  เพื่อรวบรวม และ กักเก็บพลังงานจากดวงอาทิตย์  หอคอยนี้มีระบบป้องกันมากมาย  รวมถึงสิ่งมีชีวิตโบราณที่สามารถฟื้นคืนชีพ  แถมยังเสริมพลังด้วยเทคโนโลยี Allagan  ในช่วงปลายยุค Astral Era ที่สาม  จักรวรรดิ Allagan  เริ่มเสื่อมอำนาจลงทำให้  Amon  ผู้ปกครองจึงใช้เทคโนโลยี  โคลนนิ่ง  Xande  ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิเพื่อฟื้นฟูจักรวรรดิ แต่แล้วร่างโคลนนิ่งของ Xande  ดันมีความทะเยอทะยาน  และ ไปทำข้อตกลงกับ  Cloud of Darkness  เพื่อนำมานเตอร์อย่าง Voidsent  มาถล่ม Eorzea  เพื่อจะทำลายล้างทุกสิ่ง

Amon - FFXIV

Dalamud และ Syrcus Tower

Xande  ได้ทำการสร้างดวงจันทร์เทียม  Dalamud  เพื่อส่งพลังงานไปสู่  Syrcus Tower  สำหรับใช้เปิดประตู Voidgate ไปสู่ดินแดน World of Darkness  แต่พลังงานที่ส่งออกมาดันมากเกินไป ไม่สามารถควรบคุมได้ จนทำให้  Syrcus Tower  เกิดการระเบิดทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่  เป็นเริ่มต้นยุค  Umbral Era ที่สี่  หอคอยได้จมลงใต้ดินกลายเป็นตำนานอารยธรรม  Allagan  ล่มสลาย จึงทำให้  Amon  ต้องใช้เทคโนโลยีบางอย่างทำให้ตนเอง และ  Xande  อยู่ในสถานะ  stasis  ภายในหอคอย  ส่วนชาว  Allagan  ที่เหลือรอด  พวกเขาต้องการที่จะฟื้นฟูหอคอยเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง  ทำให้ Salina  องค์หญิงชาว Allagan  คนสุดท้ายฝังรหัสพันธุกรรมของเธอ  ไว้ในสายพันธุ์  Mi'qote(น้องแมวเมี๊ยว) เผื่อว่า  วันหนึ่งชาว  Mi'qote  จะสานฝันของเธอในการฝืนคืนอารยะธรรม Allagan นี้

Cid nan Garlond

การสำรวจ Crystal Tower

Crystal Tower  ปรากฏขึ้นอีกครั้งในยุค  Umbral Era ที่เจ็ด  Cid nan Garlond  ต้องการที่จะสำรวจเทคโนโลยี  และ  อาวุธของอารยะธรรม  Allagan ที่สูญหายภายในหอคอย  เขาจึงร่วมมือกับ  Rammbroes  แห่ง  Sons of Saint Coinach  โดยรวบรวมนักผจญภัยเพื่อทำการสำรวจทำให้  Cid  พบว่า  ทางเข้าหอคอยถูกปิดกั้นโดยรูปปั้น  Eight Sentinels 8 ตน

G'raha Tia

G'raha Tia  นักวิชาการสำนัก  Baldesion  ตั้งชื่อกลุ่มสำรวจหอคอยนี้ว่า  NOAH  (Nominated Observers of Artifacts Historical)  ตามชื่อชาว  Allagan  คนหนึ่งในอดีต โดยที่  G'raha Tia  มอบหมายงานให้นักรบแห่งแสงรวบรวม  Perfect Crystal  และ  Aethereal Sand  เพื่อส่งต่อให้  Cid  สร้าง  Crystal Fang  สำหรับใช้เข้าสู่  Labyrinth of the Ancients ในเวลาต่อมานักรบแห่งแสง  และ พรรคพวก  ได้เข้าต่อสู้กับ Phlegethon วีรบุรุษแห่ง  Allagan  ที่กลายเป็นผู้พิทักษ์แห่ง  Labyrinth  โดยที่ Cid  และกลุ่ม  NOAH  ได้เดินทางกลับไปยัง  Saint Coinach's Find  เพื่อพักฟื้น  การสำรวจครั้งนี้ได้ดึงดูดความสนใจของ  Nero tol Scaeva แม่ทัพจักรวรรดิอีกด้วย

Labyrinth of the Ancients

Syrcus Tower และ Cloud of Darkness

ประตู  Syrcus Tower  นั้นแข็งแกร่งมาก  สามารถต้านทาน  พลังกายภาพ  เวทมนตร์  และอาวุธ  Magitek ได้ และแล้วเวลาก็ผ่านไป Doga  และ  Unei  ปรากฏตัวขึ้น  อ้างว่าเป็น  Students of Baldesion  พวกเขาสามารถเปิดประตู  Syrcus Tower ออกมาได้ ทันใดนั้น  Nero  ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา  และบอกว่าประตูจะตอบสนองเฉพาะสายเลือดที่แท้จริงของ  Allagan เท่านั้น ทำให้คิดได้ว่า  Doga  และ Unei  คือ  ร่างโคลนของนักปราชญ์  Allagan  ที่ถูกสร้างขึ้น  เพื่อป้องกัน  Eorzea  จากน้ำมือ  Xande  ซึ่งทางพวกเขาเอง ก็ต้องการความช่วยเหลือจากนักรบแห่งแสง  ในการกำจัด  Xande ลง

Xande  
นักรบแห่งแสงรวมพลังบุก  Syrcus Tower  เข้าต่อสู้กับ  Amon  และ  Xande ทางด้าน  Cid  และ  Nero  ก็ได้เดินทางมาถึง ส่วน  Doga  และ  Unei  ได้ทำการปิดประตู  Voidgate  เพื่อทำลายข้อตกลงของ  Xande ที่ได้ทำไว้ ทำให้  Nero  ตื่นเต้นที่เห็นประตู  Voidgate  มีพลังงานมหาศาล แต่ทว่า  Cloud of Darkness  ไม่ยอมให้ข้อตกลงนี้ถูกทำลายจึงอัญเชิญ  จึงทำให้  Doga  และ  Unei  ออกมาขัดขวาง  และตัว  Doga  ได้หลุดเข้าสู่  World of Darkness ทำให้ Nero  ที่พยายามจะเข้าไปช่วย  แต่ถูกประจู  Voidgate  ดูดเข้าไปด้วยพลังงาน  Void  เข้าสู่ร่าง  Nero  แต่กลับกันพลังงานดันกล่าวทำการปกป้อง  Doga  และ Unei  จาก  Cloud of Darkness  ทำให้พวกเค้าไม่ได้รับอันตรายใดๆ

Doga  และ  Unei

การช่วยเหลือ Doga และ Unei

Cid  แนะนำให้พวกเรากลับไป  Saint Coinach's Find  เวลาผ่านไปภัยคุกคามจาก Cloud of Darkness  ก็ได้ปรากฏขึ้น  ทำให้เป้าหมายเปลี่ยนจากการศึกษา  Allagan  เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นการจัดการเจ้าปีศาจ  Voidsent แทน รวมถึง Crystal Tower  ยังคงรวบรวมพลังงานให้  Cloud of Darkness  ตามคำสั่ง  Xande  ซึ่งสามารถหยุดได้ด้วยสายเลือด  Allagan  เท่านั้น  Cid  ได้สร้างประตู  Voidgate ขึ้นมา  เพื่อพานักรบแห่งแสง  และ  G'raha Tia  เดินทางเข้าสู่  World of Darkness (เหรด 24 คน นัวๆ)

World of Darkness

นักรบแห่งแสง  และ  G'raha Tia  ได้ลุยเข้ามาจนพบกับ  Doga, Unei  และ  Nero ซึ่งทางด้าน  Doga  และ  Unei  ตัดสินใจอยู่ใน  World of Darkness ต่อเพื่อยับยั้ง  Cloud of Darkness ส่วน G'raha Tia ที่มีสายเลือด  Allagan อยู่ แต่ทาง Doga  และ  Unei  ก็ได้ถ่ายเลือดให้  G'raha Tia เพื่อเสริมพลัง  ทำให้เขา  ควบคุม  Crystal Tower  ได้  G'raha Tia  และนักรบแห่งแสง  กลับสู่  Eorzea ทางด้าน Nero  ก็หนีรอดกลับมาเป็นเหมือนเดิม  โดยที่ได้  Cid  ช่วยเหลือไว้


การปิดผนึก Crystal Tower

G'raha Tia  บอกทางกลุ่ม  NOAH  ว่าสายเลือดของ  Doga  และ  Unei  เผยให้เห็นชาติกำเนิด  และ  ภารกิจของเขาที่ติดตัวมา  เขาจะดำเนินการปิดผนึก  Crystal Tower  และอาศัยอยู่ข้างในนั้น  G'raha Tia  เชื่อว่าความฝันของ  Salina เจ้าหญิงองค์สุดท้ายแห่ง Allagan  จะเป็นจริง  เมื่อ  Eorzea  พัฒนาทางด้านเทคโนโลยี และอารายะธรรมจนสามรถเปิดประตู  Crystal Tower  ได้เอง  ในที่สุด G'raha Tia  ได้กล่าวอำลาเพื่อนๆ  ที่สัญญาว่าจะทำให้วันนั้นมาถึงเร็วกว่าที่  G'raha Tia คาดไว้  และสุดท้ายพวกเราก็แยกย้ายกันไป


บทส่งท้าย

เหตุการณ์ The Crystal Tower  จบลงด้วยการปิดผนึก  Crystal Tower  และ  การไขปริศนาเกี่ยวกับ  หอคอย  และ  อารยะธรรมจักรวรรดิ  Allagan  นักรบแห่งแสงได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์  และ  เทคโนโลยี  โบราณ  เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยครั้งใหม่

เนื้อเรื่องไล่ตาม Patch

ความคิดเห็น